หูอื้อ คืออาการที่การได้ยินลดลง โดยจะรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างไปอุดกั้นอยู่บริเวณรูหู หรือได้ยินเสียงอยู่ภายในหู เช่น เสียงอื้ออึง เสียงวี้ด อาการหูอื้ออาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น อยู่ในพื้นที่ที่มีเสียงดังมากไป หูชั้นกลางติดเชื้อ มีน้ำคั่งค้างอยู่ในหู ความดันในหูเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผลข้างเคียงของยาที่มีต่อประสาทหู ประสาทหูเสื่อมไปตามอายุ บาดเจ็บบริเวณศีรษะทำให้กระทบต่อการได้ยิน มีความเครียด เป็นต้น แต่อาการหูอื้อสามารถป้องกันได้ง่ายๆ ดังนี้
หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเสียงดัง : เสียงดังเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการหูอื้อ เสียงดังที่ระดับ 85 เดซิเบลขึ้นไปสามารถทำให้เกิดอาการหูอื้อได้ หากจำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีเสียงดัง ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันหู เช่น ที่อุดหู หรือหูฟังกันเสียง และหลีกเลี่ยงการไปคอนเสิร์ตโดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกันหู หลีกเลี่ยงการฟังเพลงด้วยหูฟังในระดับเสียงดังเป็นเวลานาน หลีกเลี่ยงการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง
รักษาความสะอาดหู : ขี้หูเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการหูอื้อ ไม่ควรแคะหูด้วยวัตถุแหลมคม เพราะอาจทำให้แก้วหูทะลุได้ ควรใช้ก้านสำลีชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดบริเวณรูหูภายนอกเท่านั้น
ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง : หูเป็นอวัยวะที่เปราะบาง การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงจะช่วยป้องกันไม่ให้หูได้รับความเสียหาย เช่น หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่หู : หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่หู เช่น การกระแทกศีรษะหรือตกจากที่สูง และควรสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขี่จักรยานหรือมอเตอร์ไซค์
ดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด : โรคหัวใจและหลอดเลือดอาจส่งผลต่อเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหูได้ เนื่องจากโรคเหล่านี้อาจทำให้หลอดเลือดเกิดการอักเสบ ตีบตัน หรืออุดตัน ซึ่งจะส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงหูไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการหูอื้อได้
รักษาโรคประจำตัว : โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการหูอื้อได้ เนื่องจากโรคเหล่านี้อาจส่งผลต่อหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดฝอยขนาดเล็กในหูชั้นใน
นอกจากนี้ ยังมีวิธีป้องกันอาการหูอื้ออีกหลายวิธี เช่นการกลืนน้ำลายบ่อยๆ หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง วิธีนี้จะช่วยปรับความดันอากาศในหูให้เท่ากันหรือใช้ Valsalva maneuver วิธีนี้จะช่วยปรับความดันอากาศในหูชั้นกลาง โดยสูดหายใจเข้าลึกๆ ปิดจมูกและปาก แล้วเบ่งลมออกมาทางจมูกหากมีอาการหูอื้อ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น